หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือ ทีมชาติสเปน พอใจผลงานชนะ จอร์เจีย 2-0

Browse By

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือ ทีมชาติสเปน แสดงความพึงพอใจต่อผลงานของลูกทีม หลังพา “กระทิงดุ” เก็บชัยชนะเหนือทีมชาติจอร์เจียไปได้ 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป เกมที่สนามซาน มาเมส เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ผลการแข่งขันดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้สเปนรักษาสถิติไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของทีมในยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังของนักเตะดาวรุ่งและระบบการเล่นที่สมดุลมากขึ้น

เกมนี้ถือเป็นหนึ่งในนัดสำคัญของทีมชาติสเปนในเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 2026 เพราะพวกเขาจำเป็นต้องรักษาจังหวะความมั่นใจต่อเนื่องหลังจากฟอร์มการเล่นในช่วงต้นปีที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่คงเส้นคงวา การเจอกับจอร์เจียที่แม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่มีเกมรับเหนียวแน่นและอาศัยจังหวะโต้กลับได้อันตราย ทำให้สเปนต้องลงสนามด้วยความรอบคอบและเน้นการครองบอลอย่างละเอียดถี่ถ้วนตั้งแต่เริ่มเกม

ในช่วงครึ่งแรก สเปนครองบอลได้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ตามสไตล์ถนัด แต่แนวรับของจอร์เจียที่จัดระเบียบได้ดีทำให้เกมรุกของกระทิงดุดูอึดอัดอยู่ช่วงหนึ่ง จนกระทั่งนาทีที่ 34 พวกเขามาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ อัลบาโร่ โมราต้า จ่ายบอลทะลุแนวรับให้กับ นิโก้ วิลเลียมส์ ปีกดาวรุ่งจากแอธเลติก บิลเบา หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม นั่นคือจุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้ทีมเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น หลังจากนั้นรูปเกมของสเปนดูเหนือกว่าชัดเจน ทั้งการต่อบอลสั้นในพื้นที่แคบและการสร้างสรรค์จังหวะจากกลางสนามโดยมี เปดรี เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเกม

ครึ่งหลัง เด ลา ฟวนเต้ ไม่ปรับแท็กติกมากนัก แต่เน้นย้ำให้ลูกทีมเล่นอย่างมีสมาธิและไม่ประมาท เพราะจอร์เจียพยายามเปิดเกมรุกมากขึ้น หวังจะตีเสมอให้ได้ ซึ่งเปิดพื้นที่ให้สเปนใช้จังหวะสวนกลับเล่นงานได้หลายครั้ง ในนาทีที่ 63 ความพยายามของพวกเขาก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อ มิเคล โอยาร์ซาบาล ตัวรุกจากเรอัล โซเซียดาด ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังจอร์เจียก่อนพุ่งเสียบเสาเข้าไปเป็น 2-0 ซึ่งกลายเป็นสกอร์สุดท้ายของเกม และเพียงพอที่จะทำให้สเปนเก็บสามคะแนนเต็มได้ตามเป้าหมาย

หลังจบเกม หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กล่าวชื่นชมลูกทีมทุกคน โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่งที่ลงเล่นด้วยความมั่นใจ “ผมภูมิใจในผลงานของพวกเขา ทุกคนเล่นด้วยความมุ่งมั่นและทำตามแผนได้อย่างยอดเยี่ยม เราไม่เพียงแค่ชนะ แต่ยังคุมเกมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ จอร์เจียเป็นทีมที่ไม่ง่ายเลยที่จะเจาะ แต่ลูกทีมของผมแสดงให้เห็นถึงความอดทนและความเข้าใจเกมที่ดีมาก”

เด ลา ฟวนเต้ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือเรากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทีมของเรามีความสมดุลมากขึ้นระหว่างผู้เล่นรุ่นเก๋าและนักเตะหนุ่ม ทุกคนเข้าใจปรัชญาการเล่นที่เราต้องการ คือการครองบอลและกดดันคู่แข่งตั้งแต่แดนบน ซึ่งคืนนี้พวกเขาทำได้ดีเกือบทุกจังหวะ”

ชัยชนะในเกมนี้ส่งผลให้สเปนยังคงนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มด้วยคะแนนเต็ม และทำให้บรรยากาศภายในทีมกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้พวกเขาถูกสื่อบางสำนักตั้งคำถามถึงความพร้อมในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ เพราะผลงานที่ไม่คงเส้นคงวาในช่วงเริ่มต้นยุคเด ลา ฟวนเต้ แต่จากเกมล่าสุดนี้ เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทีมกำลังค่อย ๆ เข้าระบบมากขึ้น

ในมุมของนักวิเคราะห์จาก ufabet บอลชุดออนไลน์ ราคาดีที่สุด พวกเขามองว่า เด ลา ฟวนเต้ กำลังพัฒนา “เอกลักษณ์ใหม่” ให้กับทีมชาติสเปนที่ยังคงยึดหลักการเล่นแบบต่อบอล (tiki-taka) แต่มีความยืดหยุ่นและความรวดเร็วกว่าเดิม เขาปรับปรุงให้ทีมไม่ยึดติดกับการครองบอลมากเกินไปเหมือนในยุคหลุยส์ เอ็นริเก้ แต่เน้นการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกให้เร็วขึ้น ซึ่งเข้ากับนักเตะอย่างนิโก้ วิลเลียมส์, อัลบาโร่ โมราต้า และลามีน ยามาล ที่มีสปีดและความคล่องตัวสูง

ความโดดเด่นของสเปนในเกมนี้คือความเป็นทีม พวกเขาไม่ได้พึ่งพานักเตะคนใดคนหนึ่งในการสร้างสรรค์โอกาส แต่ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่เพื่อเปิดพื้นที่ การสื่อสารในแนวรับ หรือการไล่บอลตั้งแต่แดนหน้า ระบบของเด ลา ฟวนเต้เริ่มแสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนและเข้าใจในแนวทางเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมชาติสเปนต้องการมานานหลังจากยุคทองของชาบีและอิเนียสต้า

แม้ชัยชนะเหนือจอร์เจียจะไม่ได้มาพร้อมกับสกอร์ที่ถล่มทลาย แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “วิธีการเล่น” ที่เริ่มลงตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เด ลา ฟวนเต้สามารถสร้างสมดุลระหว่างแนวรับและแนวรุกได้ดี การมีโรดรีเป็นตัวคุมจังหวะในแดนกลางช่วยให้ทีมมีความมั่นคง ส่วนการเล่นของแดนหลังที่มีเปา ตอร์เรสและดานี่ การ์บาฆาล ยังคงเหนียวแน่นและไม่เปิดช่องให้คู่แข่งเข้าทำได้ง่าย

หนึ่งในจุดเด่นของสเปนในยุคนี้คือการดันนักเตะดาวรุ่งขึ้นมาใช้งานอย่างต่อเนื่อง เด ลา ฟวนเต้เคยคุมทีมชุดเยาวชนของสเปนมาก่อน ทำให้เขารู้จักนักเตะรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นอย่างดี เขารู้วิธีสร้างความมั่นใจและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของพวกเขา เช่น ลามีน ยามาล วัยเพียง 17 ปี ที่ได้รับโอกาสลงเล่นในครึ่งหลังและโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นด้วยการสร้างจังหวะอันตรายหลายครั้ง การผลักดันเยาวชนขึ้นมาเล่นร่วมกับผู้เล่นประสบการณ์สูงอย่างโรดรีหรือโมราต้าคือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยให้ทีมมีทั้งพลังหนุ่มและความนิ่งในเวลาเดียวกัน

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือการจัดการจังหวะเกมของสเปนในครึ่งหลัง ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาในด้านแท็กติกที่เด ลา ฟวนเต้นำมาใช้ เขาเลือกที่จะให้ทีมเล่นอย่างระมัดระวังมากขึ้นเมื่อขึ้นนำ โดยไม่เปิดเกมรุกจนเกินไปเหมือนในอดีต สิ่งนี้แสดงถึงการเรียนรู้จากความผิดพลาดในเกมก่อน ๆ ที่ทีมมักจะโดนตีเสมอเพราะประมาท การเน้นคุมจังหวะและรักษาสมาธิในช่วงท้ายเกมคือสิ่งที่แฟนบอลเห็นและชื่นชมอย่างมาก

หลังจบเกม เด ลา ฟวนเต้ยังได้กล่าวถึงบรรยากาศภายในทีมว่า “เรามีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันมาก ทุกคนในทีมเข้าใจบทบาทของตัวเองและทำเพื่อทีมมากกว่าตัวบุคคล นี่คือสิ่งที่ผมพยายามสร้างมาตลอดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง และผลลัพธ์คืนนี้คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าเรากำลังเดินมาถูกทาง”

นักวิเคราะห์จาก ufabet เว็บตรงทางเข้า เล่นได้ทุกที่ ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เด ลา ฟวนเต้มีความสามารถพิเศษในการสร้าง “ความเชื่อมั่น” ภายในทีม เขาไม่ใช่โค้ชที่เสียงดังหรือชอบใช้อารมณ์ แต่เป็นผู้นำที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเป็นส่วนสำคัญของทีม สิ่งนี้ช่วยให้บรรยากาศในแคมป์ทีมชาติมีความสงบและเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ซึ่งต่างจากช่วงก่อนที่ทีมมีปัญหาภายในจากความขัดแย้งระหว่างนักเตะบางกลุ่ม

ความสำเร็จในเกมนี้ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับแฟนบอลที่เริ่มมองเห็นแนวทางของทีมชัดเจนขึ้น การผสมผสานระหว่างเทคนิคระดับสูงของนักเตะรุ่นใหม่กับประสบการณ์ของผู้เล่นรุ่นเก่าทำให้สเปนกลับมามีเอกลักษณ์อีกครั้ง ทีมดูสนุกขึ้น เร็วขึ้น และมีความกระหายในชัยชนะมากกว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เมื่อมองไปข้างหน้า โปรแกรมของสเปนยังมีศึกสำคัญรออยู่อีกหลายเกม ทั้งการพบกับสกอตแลนด์และโปแลนด์ ซึ่งจะเป็นบททดสอบว่าทีมของเด ลา ฟวนเต้สามารถรักษามาตรฐานการเล่นแบบนี้ได้หรือไม่ แต่จากภาพรวมในตอนนี้ ดูเหมือนว่าทีมกำลังมีเสถียรภาพมากขึ้นทั้งในแง่ระบบการเล่นและความเข้าใจระหว่างนักเตะ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของทีมที่มีลุ้นประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ

ชัยชนะเหนือจอร์เจียอาจดูเหมือนเกมปกติในสายตาคนทั่วไป แต่สำหรับเด ลา ฟวนเต้ มันคือชัยชนะที่มีความหมายเชิงจิตวิทยาอย่างลึกซึ้ง เพราะมันช่วยยืนยันว่าการสร้างทีมของเขาเริ่มเห็นผลจริง หลังจากช่วงแรกต้องรับแรงกดดันอย่างหนักจากสื่อที่ตั้งคำถามถึงศักยภาพของทีม การตอบแทนด้วยผลงานในสนามคือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับทุกข้อสงสัย

ในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ เด ลา ฟวนเต้ได้ฝากข้อความถึงแฟนบอลว่า “เราจะไม่หยุดพัฒนาและจะเล่นด้วยหัวใจเพื่อแฟนบอลทุกคน” คำพูดเรียบง่ายแต่ทรงพลังนี้ได้รับเสียงปรบมือจากนักข่าวในห้องแถลงข่าว และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความมั่นใจที่กำลังกลับมาสู่ทีมชาติสเปนอีกครั้ง

แฟนบอลทั่วโลก รวมถึงผู้ติดตามใน คาสิโน ufabet เว็บตรง ครบทุกเกมเดิมพัน ต่างรู้ดีว่าทีมชาติสเปนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ และชัยชนะในเกมนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ทีมกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการผสมผสานระหว่างแท็กติกที่ชาญฉลาด การบริหารทีมที่สงบเยือกเย็น และพลังของนักเตะรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโต สเปนในยุคเด ลา ฟวนเต้จึงไม่ได้เป็นเพียงทีมที่เล่นบอลสวยงามเหมือนอดีต แต่ยังเป็นทีมที่มีจิตวิญญาณและความเด็ดขาด ซึ่งคือสิ่งที่พวกเขาตามหามานานนับตั้งแต่วันสุดท้ายของยุคทอง

และเมื่อเสียงนกหวีดสุดท้ายดังขึ้นที่ซาน มาเมส สเตเดี้ยม แฟนบอลหลายพันคนลุกขึ้นปรบมือให้กับผลงานของทีมรัก มันไม่ใช่แค่ชัยชนะอีกหนึ่งนัดในรอบคัดเลือก แต่มันคือการประกาศให้โลกรู้ว่า “กระทิงดุ” กำลังกลับมาอีกครั้ง ภายใต้การนำของหลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือผู้สร้างสมดุลระหว่างความคลาสสิกและความทันสมัยในเกมฟุตบอลอย่างแท้จริง.