Browse By

Tag Archives: ฟุตบอล

อาร์เซน่อล อาจจะเดินหน้าคว้าตัว ลูเซียง อากูเม่

ตลาดนักเตะช่วงฤดูหนาวเริ่มร้อนแรงขึ้นทุกวัน และหนึ่งในข่าวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากแฟนบอลพรีเมียร์ลีกคือรายงานว่า อาร์เซน่อล ทีมดังจากกรุงลอนดอนกำลังพิจารณาเดินหน้าเจรจาคว้าตัว ลูเซียง อากูเม่ (Lucien Agoumé) มิดฟิลด์ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสจากสโมสรอินเตอร์ มิลาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแดนกลางในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล โดยมีรายงานจากสื่ออิตาเลียนหลายสำนักระบุว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซือของเดอะกันเนอร์สให้ความสนใจแข้งวัย 22 ปีรายนี้อย่างจริงจังหลังจากติดตามฟอร์มการเล่นมานานกว่า 1 ปีเต็ม อาร์เซน่อลภายใต้การนำของอาร์เตต้ากำลังอยู่ในเส้นทางที่ต้องการยกระดับทีมให้พร้อมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในเวลาเดียวกัน การเสริมทัพที่เฉียบคมและคุ้มค่าเป็นสิ่งที่สโมสรให้ความสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลางซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบการเล่นแบบครองบอลที่อาร์เตต้าถ่ายทอดมาจากแนวคิดของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า การมีนักเตะที่สามารถเชื่อมเกมจากแดนหลังขึ้นหน้าได้ดีและมีสภาพร่างกายแข็งแกร่งคือสิ่งที่เขามองหา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ล้วนตรงกับสไตล์ของอากูเม่แทบทุกประการ ลูเซียง อากูเม่ ถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดของฝรั่งเศสในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลอาชีพกับโซโชซ์ ก่อนถูกอินเตอร์ มิลาน ดึงตัวไปร่วมทีมตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ด้วยค่าตัวราว 4.5 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าไม่น้อยสำหรับนักเตะวัยรุ่นในเวลานั้น ความโดดเด่นของเขาคือการอ่านเกมที่เฉียบแหลม การครองบอลแน่นหนา และความสามารถในการจ่ายบอลทะลุช่องได้อย่างแม่นยำ แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงเทียบเท่าดาวรุ่งฝรั่งเศสคนอื่นอย่างเอดูอาร์โด้ กามาวินก้า

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือ ทีมชาติสเปน พอใจผลงานชนะ จอร์เจีย 2-0

หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กุนซือ ทีมชาติสเปน แสดงความพึงพอใจต่อผลงานของลูกทีม หลังพา “กระทิงดุ” เก็บชัยชนะเหนือทีมชาติจอร์เจียไปได้ 2-0 ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป เกมที่สนามซาน มาเมส เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ผลการแข่งขันดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้สเปนรักษาสถิติไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือก แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของทีมในยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยพลังของนักเตะดาวรุ่งและระบบการเล่นที่สมดุลมากขึ้น เกมนี้ถือเป็นหนึ่งในนัดสำคัญของทีมชาติสเปนในเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 2026 เพราะพวกเขาจำเป็นต้องรักษาจังหวะความมั่นใจต่อเนื่องหลังจากฟอร์มการเล่นในช่วงต้นปีที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่คงเส้นคงวา การเจอกับจอร์เจียที่แม้ชื่อชั้นเป็นรองแต่มีเกมรับเหนียวแน่นและอาศัยจังหวะโต้กลับได้อันตราย ทำให้สเปนต้องลงสนามด้วยความรอบคอบและเน้นการครองบอลอย่างละเอียดถี่ถ้วนตั้งแต่เริ่มเกม ในช่วงครึ่งแรก สเปนครองบอลได้เกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ตามสไตล์ถนัด แต่แนวรับของจอร์เจียที่จัดระเบียบได้ดีทำให้เกมรุกของกระทิงดุดูอึดอัดอยู่ช่วงหนึ่ง จนกระทั่งนาทีที่ 34 พวกเขามาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ อัลบาโร่ โมราต้า จ่ายบอลทะลุแนวรับให้กับ นิโก้ วิลเลียมส์ ปีกดาวรุ่งจากแอธเลติก บิลเบา หลุดเข้าไปยิงด้วยขวาเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม นั่นคือจุดเปลี่ยนของเกมที่ทำให้ทีมเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น หลังจากนั้นรูปเกมของสเปนดูเหนือกว่าชัดเจน ทั้งการต่อบอลสั้นในพื้นที่แคบและการสร้างสรรค์จังหวะจากกลางสนามโดยมี เปดรี เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเกม

ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ปกป้องฟอร์มการเล่นของ โฟลเรียน เวียร์ตซ์

ยูเลียน นาเกลส์มันน์ หัวหน้าโค้ชทีมชาติเยอรมนี ออกมาปกป้องลูกทีมคนสำคัญอย่าง โฟลเรียน เวียร์ตซ์ หลังจากนักเตะดาวรุ่งจากสโมสรไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ถูกสื่อและแฟนบอลบางส่วนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่นที่ดูดร็อปลงในช่วงหลัง โดยเฉพาะในเกมกระชับมิตรล่าสุดที่อินทรีเหล็กไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ตามความคาดหวัง กุนซือวัย 37 ปีรายนี้ยืนยันชัดเจนว่า เวียร์ตซ์คือหนึ่งในผู้เล่นที่มีอนาคตสดใสที่สุดของวงการฟุตบอลเยอรมัน และเขายังคงเชื่อมั่นเต็มร้อยว่ากองกลางดาวรุ่งรายนี้จะกลับมาทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในไม่ช้า หลังจากทีมชาติเยอรมนีเสมอกับคู่แข่งในเกมอุ่นเครื่องช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่พุ่งตรงไปที่เวียร์ตซ์ วัย 21 ปี ที่ถูกคาดหวังให้เป็นเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของทีมชุดนี้ เขาได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมได้มากนัก จังหวะการจ่ายบอลและการตัดสินใจบางครั้งขาดความเด็ดขาด ทำให้แฟนบอลบางส่วนมองว่าเขายังไม่พร้อมสำหรับการแบกรับความกดดันในระดับทีมชาติ อย่างไรก็ตาม นาเกลส์มันน์กลับไม่เห็นด้วยกับเสียงวิจารณ์เหล่านั้น และเลือกที่จะออกมาปกป้องลูกทีมต่อหน้าสื่อ โดยกล่าวว่า “โฟลเรียนยังคงเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมและมีคุณภาพสูง เขาอาจมีเกมที่ไม่สมบูรณ์แบบบ้าง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเล่นแย่ เขายังสร้างโอกาสได้หลายครั้งและทำหน้าที่ตามแผนที่วางไว้ ผมรู้ดีว่าแฟนบอลคาดหวังอะไรจากเขา แต่ผมเห็นสิ่งที่มากกว่านั้นในสนาม สิ่งที่เขาทำเพื่อทีมไม่ได้วัดได้แค่จำนวนประตูหรือแอสซิสต์” คำพูดของกุนซือรายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจในธรรมชาติของนักเตะดาวรุ่ง การที่นาเกลส์มันน์ซึ่งเคยเป็นโค้ชที่ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนาเยาวชน ออกมาปกป้องลูกทีมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเขาเองก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบเดียวกันมาก่อนในฐานะโค้ชของไลป์ซิกและบาเยิร์น มิวนิก ที่ต้องดูแลผู้เล่นอายุน้อยในทีมชุดใหญ่ การให้โอกาสและความเชื่อมั่นคือสิ่งที่เขายึดมั่นเสมอ เวียร์ตซ์ถูกมองว่าเป็น “อัญมณีล้ำค่า”

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ประกาศแต่งตั้ง รอสส์ วิลสัน

สโมสรยักษ์ใหญ่หลายทีมในพรีเมียร์ลีกกำลังปรับโครงสร้างบริหารเพื่อตอบรับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในยุคฟุตบอลสมัยใหม่ ล่าสุด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ได้สร้างความเคลื่อนไหวสำคัญอีกครั้ง ด้วยการประกาศแต่งตั้ง รอสส์ วิลสัน เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล (Director of Football) อย่างเป็นทางการ เพื่อเข้ามาดูแลการบริหารเชิงเทคนิค การเสริมทัพ และการพัฒนาโครงสร้างภายในสโมสรทั้งหมด ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของสโมสรที่กำลังเดินหน้าสู่ยุคใหม่ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบียที่ตั้งเป้าจะพานิวคาสเซิ่ลขึ้นไปเทียบชั้นกับทีมระดับท็อปของยุโรปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การแต่งตั้งวิลสันได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์ของสโมสรเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา พร้อมคำกล่าวจากซีอีโอ ดาร์เรน เอียลส์ ที่ระบุว่า “รอสส์คือนักบริหารฟุตบอลที่มีประสบการณ์สูงและเข้าใจวิธีสร้างทีมอย่างยั่งยืน เขาไม่เพียงแต่รู้จักการซื้อขายนักเตะเท่านั้น แต่ยังเข้าใจลึกซึ้งถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรในสโมสรฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการในตอนนี้” คำพูดนี้สะท้อนอย่างชัดเจนว่านิวคาสเซิ่ลไม่ได้เพียงมองหาคนที่จะจัดการเรื่องการย้ายทีมเท่านั้น แต่ต้องการผู้นำที่สามารถกำหนดทิศทางและโครงสร้างระยะยาวของสโมสร รอสส์ วิลสัน วัย 41 ปี ถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารฟุตบอลรุ่นใหม่ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในวงการฟุตบอลอังกฤษ เขาเริ่มต้นเส้นทางในฐานะเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลของฟัลเคิร์ก ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาทำงานกับเซาแธมป์ตันและกลาสโกว์ เรนเจอร์ส ซึ่งทั้งสองทีมถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะ “มันสมอง” เบื้องหลังความสำเร็จของสโมสร โดยเฉพาะในสมัยที่ทำงานกับเรนเจอร์ส เขาเป็นคนสำคัญในการผลักดันการเซ็นสัญญากับสตีเว่น เจอร์ราร์ด ในปี